ฟันของคุณเฉดสีไหน แล้วจำเป็นต้องฟอกสีฟันรึยัง
สีของฟันเป็นอีกหนึ่งปัญหาของคนในสังคมปัจจุบันที่มีวิถีชีวิตและการรับประทานที่มักจะทำร้ายสีของฟันอย่างไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการดื่มกาแฟเป็นประจำ, การสูบบุหรี่, การดื่มน้ำอัดลม รวมทั้งพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ๆ ที่ทำให้สีฟันเปลี่ยนไป ไม่สดใส ไม่น่ามอง และการแก้ปัญหาสีของฟันให้กลับมาสดใสอีกครั้งก็คือการฟอกสีฟัน ซึ่งก่อนจะไปฟอกสีฟันหลายคนอาจจะสงสัยว่าฟันของคุณอยู่ในระดับเฉดสีไหนและจำเป็นแค่ไหนที่ต้องได้รับการฟอกสีฟัน ซึ่งเฉดสีของฟันมีดังนี้
– ระดับ A ฟันจะมีสีน้ำตาลอมแดง
– ระดับ B ฟันจะมีสีเหลืองอมแดง
– ระดับ C ฟันจะมีสีเทา
– ระดับ D ฟันจะมีสีเทาอมแดง
โดยในแต่ละเฉดสีจะมีระดับความเข้มต่างๆ ที่มีความระเอียดสูง สามารถเทียบสีฟันของเราได้ เพื่อใช้เป็นตารางเทียบให้คุณตัดสินใจได้ว่าต้องการให้ฟันขาวขึ้นขนาดไหน ซึ่งโดยปกติแล้วการฟอกฟันขาวโดยทันตแพทย์จะสามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ 5-7 เฉด มากที่สุดอยู่ที่ 9 เฉด น้อยที่สุดอยู่ที่ 2-3 เฉด โดยการจะขาวขึ้นระดับไหนนั้นขึ้นอยู่กับสีฟันธรรมชาติของเราเอง และวิธีการฟอกสีฟันที่คุณเลือกด้วย ซึ่งการฟอกสีฟัน เป็นวิธีทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายและมีผลการวิจัยรองรับว่ามีความปลอดภัยต่อฟัน โดยวิธีการฟอกสีฟันที่ปลอดภัยที่สุดคือการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ในคลินิก ซึ่งใช้เวลาการฟอกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้ แต่สำหรับผู้ที่มีเฉดสีของฟันระดับ C และ D การฟอกสีฟันโดยทั่วไปอาจจะไม่ได้ผล ต้องฟอกสีฟันจากด้านในตัวฟัน หรือต้องใช้วิธีอื่นในการรักษาสีของฟัน อาทิ การเคลือบฟันเทียม, การครอบฟัน ซึ่งฟันที่มีลักษณะเทาและเทาอมแดง เป็นปัญหาฟันที่เกิดจากฟันตาย หากรักษาด้วยการฟอกสีฟันอย่างเดียวอาจจะเห็นผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สีของฟันที่เปลี่ยนไปไม่ว่าจะเฉดไหนเชื่อว่าก็ทำให้ความมั่นใจของคุณลดน้อยลงอย่างแน่นอน ดังนั้นการรักษาปัญหาสีของฟันที่ได้ผลและปลอดภัยที่สุดก็คือการฟอกสีฟันกับทันตแพทย์ที่คลินิกซึ่งในปัจจุบันนี้สะดวกและเห็นผลได้เป็นอย่างดีมาก ใครที่กำลังประสบปัญหาสีของฟันอยู่ก็อย่าปล่อยเอาไว้นานรีบไปพบทันตแพทย์ที่คลินิกกันได้เลย