แก้ปัญหาฟันเหลืองแบบปลอดภัย – ฟอกสีฟัน ทำเองง่ายๆ ได้ที่บ้าน
การฟอกสีฟันนับเป็นวิธีแก้ปัญหาฟันเหลืองแบบปลอดภัย แต่ต้องทำอย่างถูกวิธี ซึ่งหากคนไข้ไม่ได้ติดขัดในเรื่องใดที่จะทำให้ไปฟอกสีฟันกับทันตแพทย์ผู้ชำนาญการได้ ก็ควรให้ทันตแพทย์ทำให้ดีกว่า หมดปัญหาข้างเคียง แต่การฟอกสีฟันเองก็ยังมีความน่าสนใจ เพราะทำได้เองง่ายๆ รวมถึงปลอดภัยไม่แพ้กัน หากทำอย่างถูกวิธี
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการฟอกสีฟันเองมีอะไรบ้าง
การฟอกสีฟันเองที่บ้านมีหลายรูปแบบ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- ใช้อุปกรณ์และน้ำยาฟอกสีฟันจากคลินิกที่ไปฟอกสีฟันครั้งแรก และมีการพิมพ์ปากเพื่อทำถาดฟอกฟันที่เป็นของเฉพาะตัว รวมถึงวิธีนำมาทำเองที่บ้าน การฟอกสีฟันเองแบบนี้ต้องอาศัยการเรียนรู้แล้วลงมือทำตามที่มีทันตแพทย์ให้คำปรึกษา
- ซื้ออุปกรณ์ฟอกสีฟันตามท้องตลาดที่มีจำหน่ายเอง ประกอบด้วยถาดฟอกสีฟัน 1 คู่ สำหรับฟันบน 1 ชิ้น ฟันล่าง 1 ชิ้น หรือทำเฉพาะตัวที่คลินิกแล้วซื้อแค่น้ำยาในท้องตลาด ส่วนน้ำยาฟอกสีฟันนั้น นอกจากจะมีแบบที่ใช้กับถาดฟอกฟันแล้ว ยังมีประเภทที่ไม่ต้องใช้ถาดฟอก คือ แบบปากกาฟอกสีฟัน แผ่นฟอกสีฟัน หรือที่เป็นยาสีฟันที่ใช้สำหรับแปรงเหมือนยาสีฟันทั่วไป แต่มีคุณสมบัติฟอกฟันขาวไปในตัว
แต่ละวิธีจะได้ผลมากน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของน้ำยา และการทำเองด้วย นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีประเภทใช้แสง LED ในการฟอกสีฟัน เลียนแบบเหมือนทำที่คลินิกด้วย
ขั้นตอนวิธีฟอกสีฟันเองที่บ้าน
- 1. กรณีที่ใช้ถาดฟันที่ซื้อเองเป็นลักษณะยาง ต้องนำจุ่มน้ำร้อนก่อนใส่เพื่อกัดให้เป็นถาดที่มีรูปฟันก่อน และอาจต้องมีการตัดส่วนเกินที่ไม่พอดีออกบ้าง แต่ถ้าทำที่คลินิกก็เป็นถาดฟันที่สมบูรณ์อยู่แล้ว
- บีบเจลฟอกสีฟันลงบนถาดฟัน อย่าใส่จนล้นถาดเพราะเมื่อครอบไปที่ฟันแล้วน้ำยาจะล้นไปโดนบริเวณโดยรอบ
- ใส่ถาดฟอกสีฟันเข้ากับฟันให้สนิท ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20-30 นาที
- ครบเวลาแล้ว ถอดถาดฟอกสีฟันออก ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ใช้น้ำเปล่าก็พอ ส่วนฟันของเราก็แปรงให้สะอาดเช่นกัน
ในการทำครั้งเดียว อาจเห็นสีของฟันเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย หรือน้อยมากขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของน้ำยาที่ใช้ หลังจากนั้นก็ต้องทำซ้ำอีก ซึ่งกว่าฟันจะขาวจนเห็นได้ชัดว่าขาวจริงๆ อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง
สิ่งที่แตกต่างระหว่างฟอกสีฟันเองที่บ้านกับทำที่คลินิก
ในเรื่องของประสิทธิภาพหรือผลลัพธ์ที่ได้หลังการฟอกฟันนั้น ถ้าเปรียบเทียบกันของทั้งทำที่คลินิกกับฟอกสีฟันเองที่บ้าน หากทำครบคอร์สตามรูปแบบเฉพาะก็จะมีผลลัพธ์คือ มีฟันที่มีสีขาวใกล้เคียงกันมาก แต่สิ่งที่แตกต่างกันเป็นเรื่องของ
- 1. ความเข้มของสาร ที่คลินิกจะใช้น้ำยากลุ่มไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้นประมาณ 35% แต่ฟอกสีฟันเองที่บ้าน น้ำยาที่ใช้จะมีความเข้มข้นน้อยกว่า คือ 3.5-10% เท่านั้น
- เวลาที่ใช้ฟอกฟันขาวแต่ละครั้ง ถ้าทำที่คลินิก จะใช้เวลามากกว่า คือ 1-2 ชั่วโมง แต่ถ้าทำเองที่บ้านจะใช้เวลาในแต่ละครั้งน้อยกว่า คือ 20-45 นาที
- จำนวนครั้งที่ต้องทำเพื่อให้ฟันขาว ทำที่คลินิก ทำครั้งเดียวก็ได้ฟันสีขาวตามต้องการ ซึ่งในแต่ละครั้งจะทำประมาณ 3 รอบ ซึ่งทันตแพทย์จะเทียบสีฟันว่าได้ตามต้องการหรือยัง ถ้าได้สีฟันตามต้องการเร็วก็อาจทำน้อยกว่า 3 รอบก็ได้ แต่ถ้าทำเองที่บ้านต้องทำหลายครั้ง ทำอย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นวันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง กล่าวคือ ต้องใช้เวลาในการทำอาจมากกว่า 3-5 ครั้งอย่างต่อเนื่องตามคอร์สที่กำหนด จึงจะได้ฟันขาวเทียบเท่าไปทำที่คลินิก 1 ครั้ง
- ผลข้างเคียงขณะฟอกสีฟันขาว ถ้าทำที่คลินิก เนื่องจากน้ำยาที่ใช้เข้มข้นกว่าเพื่อให้ได้ผลเร็ว ชัดเจนในครั้งเดียว ดังนั้น โอกาสที่คนไข้จะมีอาการเสียวฟันขณะทำและหลังทำจึงมีมากกว่า การฟอกสีฟันเองที่บ้าน
การฟอกสีฟันเองที่บ้าน เหมาะกับใคร
- เหมาะกับคนที่ต้องฟอกสีฟันซ้ำหลังจากที่เคยทำกับทันตแพทย์ที่คลินิกมาแล้ว แต่ฟันกลับมาเหลืองใหม่เร็ว
- เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย เพราะการฟอกสีฟันที่คลินิกต้องใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง และต้องมีการนัดทันตแพทย์ตามเวลากำหนดของคลินิก
- เหมาะกับคนที่ชอบดื่มเครื่องดื่ม หรืออาหารที่ทำให้สีฟันกลับมาเหลืองเร็วกว่ากำหนด การต้องไปพบทันตแพทย์ซ้ำบ่อยๆ ต้องใช้เวลา รวมถึงการพบทันตแพทย์ทุก 2-3 เดือน มีค่าใช้จ่ายสูงตามมา
ข้อควรระวังเมื่อฟอกสีฟันเอง
ต้องศึกษาวิธีทำให้ดี ทำให้ถูกขั้นตอน และระมัดระวังเวลาทำ เนื่องจากน้ำยาฟอกสีฟันนั้น อาจมีผลข้างเคียงกับฟันเล็กน้อยคือทำให้เสียวฟันบ้าง แต่ถ้าสัมผัสกับส่วนอื่นโดยรอบ จะมีอาการข้างเคียงมากกว่า อักเสบ ฯลฯ
คุณสามารถแก้ปัญหาฟันเหลืองแบบปลอดภัยด้วยการฟอกสีฟันเองง่ายๆ ที่บ้านได้ก็จริง แต่ต้องอยู่ภายใต้หลักการ วิธีการ ที่ถูกต้อง ไม่ใจร้อนหรือประมาทจนเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์