จัดฟันจะมีผลเสียในตอนแก่หรือไม่?
ความวิตกกังวลอย่างหนึ่งของคนที่อยากจะจัดฟันก็คือ ความกังวลว่า เมื่อจัดฟันไปแล้ว จะสวยและดีเฉพาะตอนที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่ผลเสียจะตามมาในตอนแก่ๆ เลยชะลอเวลาในการจัดฟันต่อไป บทความนี้ จะเป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่ช่วยคุณรู้จักว่าการจัดฟันคืออะไร แล้วผลลัพธ์ตอนแก่จะเป็นอย่างไร เป็นผลเสียอย่างที่คุณกำลังวิตกอยู่หรือไม่
ใครไม่ควรคิดเรื่องจัดฟันจะมีผลเสียในตอนแก่
การรักษาโรคแผนปัจจุบัน โดยทั่วไปมักจะมีทั้งผลดีและผลเสีย ผลดีคือ ช่วยให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ แต่ก็อาจจะมีผลข้างเคียงตามมาบ้าง เช่นผลจากตัวอย่างที่สะสมในร่างกายและอาจมีผลในอนาคต หรือในการรักษาโรคร้ายบางโรค แม้จะรู้ทั้งรู้ว่า จะมีผลข้างเคียงตามมาก็ตาม แต่เพื่อให้หายจากโรค เราก็ยังต้องรักษา การจัดฟันก็เช่นกัน ในกรณีที่เป็นการจัดเพื่อการรักษาเพื่อการดำรงชีวิตประจำวันที่มีคุณภาพมากขึ้น คงไม่มีใครมาคำนึงหรือคิดเรื่องผลที่อาจจะตามมาในตอนแก่แน่นอน ซึ่งบุคคลเหล่านั้น ได้แก่
- คนที่มีฟันเก ฟันซ้อน ชนิดที่ทำให้มีความยากในการจะรักษาความสะอาดฟันได้อย่างสมบูรณ์ จนส่งผลให้มีปัญหาเรื่อง ฟันผุอยู่เสมอ
- คนที่มีปัญหาเรื่องฟันยื่น ฟันล่างคร่อมฟันบน มีปัญหาทั้งเรื่องการพูด การขบเคี้ยวอาหาร ซึ่งสร้างปัญหาในการดำรงชีวิตประจำวัน นำไปสู่โรคภัยอื่นที่จะตามมาในอนาคตที่เกิดจากการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด พูดไม่ชัด เป็นต้น
- คนที่มีปัญหาเรื่องฟันไม่สบกัน ข้อนี้สร้างปัญหาเรื่องการขบเคี้ยวเช่นเดียวกัน
- คนที่มีปัญหาเรื่องฟัน ประกอบกับขากรรไกร ที่ส่งผลให้มีปัญหาข้างเคียงมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่แก้ไขด้วยการจัดฟัน ปัญหานั้นจะทวีความรุนแรง ยิ่งแก้ไขช้ายิ่งลำบาก เป็นต้น
ปัญหาที่มีวิธีแก้ไขทางเดียวคือ การจัดฟันนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องแก้ไข คงไม่มีใครมาประเมินถึงผลได้ผลเสีย เพราะต่อให้มีผลเสียจากการจัดฟันในตอนแก่ ก็ต้องจัดฟันอยู่ดี เพราะปัจจุบันยังไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดฟัน
สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ถึงขนาดมีความจำเป็นว่า ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องจัดฟัน เพราะไม่จัดไม่ได้นั้น ก่อนจัดควรศึกษาข้อมูลต่อไปนี้ก่อน
- การจัดฟัน บางครั้งต้องมีการถอนฟันบางซี่ออก อาจเป็นซี่เดียวหรือหลายซี่ ทำให้เราเหลือฟันไว้ใช้งานน้อยลง และปริมาณฟันเหล่านั้น อาจทำให้มีพื้นที่ว่างของฐานเหงือก
- การจัดฟัน จะมีการใช้เครื่องมือจัดฟัน เคลื่อนฟันออกจากตำแหน่งเดิมไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งทำให้มีผลถึงรากฟันที่จะขยับเคลื่อนที่ด้วยการบังคับ การทำเช่นนั้น จะมีผลคือ ทำให้ฟันไม่แข็งแรงเท่าเดิมเหมือนที่ธรรมชาติสร้างไว้ ดังจะเห็นได้ว่า หลังจัดฟัน ทันตแพทย์จะแนะนำคนไข้ให้ใส่รีเทนเนอร์เอาไว้ เพื่อประคองฟันให้อยู่ในตำแหน่งตามที่จัดอย่างต่อเนื่อง ต้องใส่เป็นปีๆ หากใครลืมใส่ก็จะพบว่า ฟันมีการเคลื่อนผิดตำแหน่ง ไม่สวยเหมือนตอนจัดเสร็จใหม่ๆ ที่เรียกว่า ฟันล้ม หรือบางคนแม้จัดฟันและใส่รีเทนเนอร์ระยะหนึ่ง หลังจากนั้นเลิกใส่ ก็อาจมีปัญหาฟันล้มได้ ถ้าล้มมากจนแก้ไขไม่ได้ก็ต้องจัดฟันใหม่ ยิ่งจัดฟันบ่อยฟันก็มีโอกาสอ่อนแอมากขึ้น
ตอนแก่ตัวไป ฟันจะเป็นอย่างไร
เราคงเคยเห็นกันทั่วไปว่า คนแก่บางคนฟันหัก ฟันหลอ หรือเมื่อถึงวัยหนึ่งอาจต้องใส่ฟันปลอมแบบใส่ทั้งปากก็มี นั่นคือปกติของฟันที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ ไม่ว่าคนๆ นั้นจะมีฟันที่แข็งแรงในวัยหนุ่มสาวเป็นอย่างมากก็ตาม ก็ยังมีโอกาสเป็นเช่นนั้น ดังนั้น ในระหว่างแห่งวัย ทุกคนมีสิทธิ์ต้องใส่ฟันปลอมกันทั้งนั้น
ฟันคนแก่ของคนที่ไม่จัดฟันกับคนที่จัดฟันแตกต่างกันอย่างไร
ตามผลข้างเคียงของการจัดฟันข้างต้น เราจะเห็นได้ว่า ฟันที่ผ่านการจัดฟันมีการเคลื่อนย้ายฟันด้วยเครื่องมือนั้นจะมีโอกาสล้มมากกว่าฟันของคนที่ไม่ได้จัดฟัน เนื่องจากการจัดฟันทำให้ฟันแข็งแรงน้อยลง จึงไม่เฉพาะแต่ตอนแก่เท่านั้น ดังนั้น การจัดฟันอาจมีผลเสียในตอนแก่ เช่น จากความไม่แข็งแรงของฟัน ทำให้ฟันหัก บิ่น หรือหลุด จำเป็นต้องใส่ฟันปลอมก่อนคนที่ไม่ได้จัดฟันก็เป็นได้
วิธีชะลอเวลาให้เกิดผลข้างเคียงช้าที่สุด
- หลังจากจัดฟัน ควรรักษาสุขภาพฟันให้ดี มีวินัยในการใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด และไปตรวจเช็คสุขภาพฟันตามนัดหมาย
- ไม่เร่งความไม่แข็งแรงของฟัน ด้วยการใช้ฟันอย่างไม่ถนอม เช่น กัดอาหารแข็งแรง หรือใช้ฟันผิดหน้าที่ที่แท้จริง
- กรณีที่แก่แล้ว ประสบกับปัญหาฟันหลุด ฟันหัก ต้องรีบใส่ฟันปลอมในซี่นั้นๆ อย่าทิ้งไว้นาน เพราะฟันจะล้มง่ายกว่าคนที่ไม่เคยจัดฟัน
ในการรักษาสุขภาพฟัน ทุกกรณีล้วนมีผลข้างเคียง แต่ถ้ามันคือทางเลือกที่เสียน้อยกว่าประโยชน์ เราก็ต้องแลก เช่น ฟันผุ ก็ต้องกรอเนื้อฟันบางส่วนออกเพื่อจะอุดฟันให้แน่นหนา ผลคือรักษาฟันแท้เอาไว้ใช้งานต่อไปได้ การจัดฟันก็ทำนองเดียวกัน จุดอ่อนคือ ฟันจะแข็งแรงน้อยลง สำหรับคนที่มีปัญหาก็ต้องจัดฟัน เพราะประโยชน์ปัจจุบันมีมากกว่าผลเสียในอนาคตนั่นเอง