การดูแลสุขภาพฟันของวัยรุ่น
เมื่อเข้าสูงวัยรุ่นแม้ว่าจะเป็นวัยที่ทำความสะอาดฟันได้เองและมีความรับผิดชอบมากพอแล้ว แต่วัยรุ่นทั้งหลายก็มักจะมีปัญหาช่องปากหลากหลายรูปแบบเพราะวัยรุ่นเป็นวันที่หิวบ่อยและมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาว จึงเป็นช่วงที่จะมีปัญหาฟันผุ และเหงือกอักเสบได้ง่าย
วิธีดูแลสุขภาพช่องปากในวัยรุ่น
- แปรงฟันอย่างถูกวิธีทั่วถึงทุกซี่ ซึ่งวัยรุ่นมักจะชอบทำอะไรแบบรีบๆ โดยเฉพาะการแปรงฟัน แม้จะแปรงแล้วแต่ไม่ทั่วทุกซี่จึงเกิดปัญหาฟันผุได้ง่าย ดังนั้นทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ตอนเช้าและก่อนเข้านอน ควรแปรงฟันอย่างถูกต้องเพื่อขจัดเศษอาหารออกให้หมด
- เลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อช่วยลดปัญหาฟันผุ
- ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง หลังการแปรงฟัน เพื่อขจัดคราบแบคทีเรียที่มักจะเกาะติดอยู่บริเวณคอฟัน รวมทั้งยังขจัดเศษอาหารในบริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งทางร่างกาย ฟันและเหงือก เพราะในวัยรุ่นร่างกายกำลังเจริญเติบโตจึงทำเป็นที่ต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารจำพวก เนื้อสัตว์ นม ไข่ และผลไม้
- หลีกเลี่ยงอาหารที่น้ำตาลและขนมเหนียวที่มักจะติดฟัน รวมทั้งไม่ทานจุกจิก เพราะจะทำให้มีเศษอาหารติดฟันเราอยู่ตลอด และหากยิ่งเราไม่แปรงฟันหลังรับประทานขนมก็ยิ่งจะทำให้ฟันของเรามีหินปูนเยอะ จนลามมาเกิดปัญหาฟันผุ โรคเหงือกอักเสบได้
- หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม เป็นประจำ เพราะจะทำให้สีของน้ำมาติดฟัน ทำให้ฟันเปลี่ยนสี ไม่ขาวสดใส จนเกิดความไม่มั่นใจในบุคลิกภาพของตัวเองได้
- หมั่นตรวจสุขภาพช่องปากด้วยตัวเองอยู่เสมอ โดยหลังแปรงฟันเสร็จให้อ้าปากตรวจหาฟันผุในช่องปาก หากพบว่าฟันกำลังจะผุและมีหินปูนเกาะติดตามซอกฟันแม้ว่าจะแปรงฟันแล้วให้ไปพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูน
- ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างละเอียด โดยควรนัดคุณหมออย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อทำการขูดหินปูนและขัดฟัน ร่วมทั้งตรวจดูโครงสร้างของฟันหากพบความบกพร่องจะได้ทำการแก้ไข
การดูแลสุขภาพช่องปากในวัยรุ่นเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังเติบโตและใช้พลังงานเยอะ รับประทานได้เยอะ ซึ่งหากไม่ดูแลความสะอาดช่องปากให้ถูกต้องจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุ เหงือกอักเสบได้ง่ายจนลุกล่ามเป็นโรคปริทันต์และอาจจะสูญเสียฟันได้เลยทีเดียว รวมทั้งผู้ปกครองอาจจะคิดว่าบุตรหลานโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว จึงไม่ช่วยดูแลเท่าที่ควร ดังนั้นผู้ปกครองอย่ามองข้ามควรรีบปลูกฝังนิสัยการดูแลฟันที่ถูกต้องให้บุตรหลานของท่าน